ครั้นถึงขณะครึ่งปีหลังแบบนี้จักกอบด้วยเทศกาลเอ็ดที่สิ่งมีชีวิตไทยศรัทธาสายประเทศจีนนั้นเฝ้าคอยคอยพร้อมด้วยปฏิบัติกันทั่วปี คือ การแดกเจ นั้นเองซึ่งเทศกาลกินเจ ปี 2557 นี้ จะมีพร้อมด้วยกันหญิบครั้ง เนื่องจากงานกินเจจะตั้งต้นกันในวันขึ้น 1 ค่ำ จันทร 9 คือ ตามปฏิทินจีนเครื่องใช้ทุกปี แต่ว่าในปีนี้ละตามปฏิทินจีนในปีนี้มีอยู่เดือน 9 อีกด้วยกัน 2 ครั้งเลื่องลือนั้น จึงทำเอื้ออำนวยมีการนับว่าเทศงานกินเจ 2 รอบ เหตุด้วยกัน คือ
ครั้งที่ 1 นั้น ตรงด้วยกันวันที่ 24 กันยายน ถึง 2 ตุลาคม 2557
ครั้งที่ 2 นั้น ตรงกับวันที่ 24 ตุลาคม ถึง 1 เดือนพฤศจิกายน 2557
และเป็นที่แน่เอนกายว่าเราก็จะเห็นธงสีเหลืองมีตัวอักษรจีนประดับอยู่ตามร้านอาหาร และสถานที่ต่างๆ เยอะแยะ เป็นสัญลักษณ์ว่า ชักจะจะเข้าสู่เทศกาลกินเจแล้ว โดยจะการกินเจนั้นจะมีระยะคราวด้วยกัน 10 วัน พร้อมทั้งส่วนพุฒที่คนทั่วไปรับรู้กันดีแล้วเตือนในระหว่างที่จับศีลกินเจนั้น จะละเว้นเนื้อสัตว์ รักษาอยู่ในศีลเท่านั้น บางขาที่เคร่งมากๆ ก็จะนุ่งขาวห่มขาว เปรียบเสมือนกับสดการทำตัวเองให้บริสุทธิ์บริสุทธิ์อยู๋ตลอดเวลา แต่ก็ยังกอบด้วยคำถามตามมาริอีกมากมายว่า จะกินเจไปเพื่ออะไร? นั้นเอง
มีดวงประสงค์สดมภ์ของการกินเจ แบ่งคลอดได้เป็น 3 ประเภทด้วยกัน คือ
1. กินไปเพราะว่าสุขภาพ เพราะอาหารเจเป็นอาหารชีวจิต เมื่อกินติดต่อกันแล้ว จะทำให้แปลนกายสมดุล สามารถที่จะขับพิษข้าวของเครื่องใช้เสียต่าง ๆ ออกจากร่างกายได้อีกด้วย และยังปรับระเบียบต่าง ๆ ในร่างสกนธ์ให้มีเสถียรภาพ
2. ใช้สอยไปด้วยซ้ำจิตเมตตา เนื่องจากทุก ๆ วัน โภชนาที่กระผมกินไปนั้นทำด้วยเลือดเนื้อของสรรพสิงสาราสัตว์ ผู้ที่มีจิตดวงจิตดีงามจึงจะไม่อาจจะกินเนื้อข้าวของสัตว์ส่วนนั้นได้
3. กินไปเพื่อเว้นกรรม เพราะการปลิดชีวิตเอาเลือดเนื้อผู้อื่นมาริเป็นของเรามันสดการสร้างกรรม แม้จะไม่ได้ลงมือฆ่าเองก็ตามแต่ เพราะการซื้อผู้อื่นเท่ากับการจ้างฆ่านั้นเอง ถ้าไม่มีคนกินก็ไม่มีคนฆ่ามาขาย ผู้ที่เข้าใจในเรี่องกฎแห่งกรรมจึ่งหยุดกิน หันมารับแจกอาหารมังสวิรัติแทนค่ะ โดยไม่เห็นแก่ข้อคดีอร่อยณช่วงเวลาสั้น ๆ นี้แค่แค่ให้เครื่องกินข้ามลิ้นเท่านั้นค่ะ
แบบการดำเนินการตนในช่วงกินเจ
ในขณะเวลา 9 กลางวันที่กินเจนั้น ผู้ที่จำเป็นต้องการเป็นผู้คีบศีลกินเจอย่างครบพรั่งพร้อมตามประเพณีนั้น ต้องวางตนตัวราวนี้
1. งดเลิกละเนื้อสัตว์ และกระทำอันตรายต่อสัตว์
2. งดเขมือบนม เนย และน้ำมันรถที่ได้มาจากสัตว์
3. งดกินภักษารสจัด ทั้งอาหารเผ็ด กับ มธุรจัด และ ทันสมัยจัด เค็มจัด
4. งดกินผักหรือเครื่องมือเทศที่มีกลิ่นแรง เช่นพวก กระเทียม หัวหอมหวน ต้นหอมแดง นโยบายเกียว กุยช่าย ด้วยกันรวมทั้งใบยาดูด และของมึนมึนเมาต่าง ๆด้วย เพราะผักดังกล่าวนี้ คือผักที่มีรสหนัก และกลิ่นอายฉาวโฉ่คาวรุนแรง นอกจากนี้แล้งยังมีพิษคอยทำลายพละกำลังธาตุทั้ง 5 ในร่างกายินทรีย์อีกด้วย และเป็นเหตุให้อวัยวะนโยบายสำคัญภายแห่งทั้ง 5 ทำงานมิปกติค่ะ
5. ให้รักษาศีลห้า
6. แจกทำบุญกุศลทำทาน และสำหรับขาที่เคร่งครัดจะนุ่งขาวปกคลุมขาว
7. ให้อนุรักษ์จิตใจให้บริสุทธิ์ ค้ำจุนอารมณ์
และเพราะผู้ที่เคร่งครัดมาก ๆ จะทานเหยื่อเฉพาะกับนรชาติที่กินเจด้วยกันเป็นคนปรุงเท่านั้น ซึ่งรวมทั้งจะต้องล้างกุมภจนสะอาด ด้วยกันแยกเครื่องใช้สำหรับใส่เนื้อสัตว์ออกไปด้วย เพื่อปรุงภัตเจเฉพาะ แล้วนอกจากนี้อีกทั้งจุดตะเกียงไว้ 9 ดวงไม่เว้นช่วงเทศกาลเปลืองเจ 9 วันสำหรับ โดยที่ไม่ปลดให้ดับ เพื่อเป็นศาสนาพุทธปฏิบัติบูชา และจะระลึกถึงถึงบุญคุณสิ่งพ่อแม่ญาติพี่น้อง และล้วนแล้วจนผู้ที่ดินมีบุญคุณต่อผืนแท่งดินเกิด
และเมื่อชาวสนุก!ดูดวงทราบจุดประสงค์หลักทั้ง 3 ประการของการถือข้อปฎิบัติกินเจกันจากไปกันแล้ว ก็เหมาะจะมาประจักษ์แจ้งเรื่องราวซึ่งแขวนกับข้อควรจะปฏิบัติในระหว่าง 10 วันข้าวของการกินเจกัน เพราะว่าตลอดขณะระยะเวลาของเทศกาลกินเจ แล้วก็จะมีโปร่งบางวันแหล่งจะมีกิจกรรมวิเศษหรือข้อสมควรที่จะปฏิบัติที่เกิดขึ้นแตกต่างกันออกไป โดยตรงตัวในบุรีภูเก็ตคือจังหวัดที่จะรุ่งชื่อในกรณีของการจัดงานพิธีเทศกาลกินมังสวิรัติ และยังมีกิจกรรมถมเถมายทั้งหมด 10 วัน
มาดู 10 วันของเทศกาลกินเจ
ซึ่งขนบธรรมเนียมกินเจจะเปรี้ยง 9 วัน 9 คืน โดยถ้าว่าละวันตรงนั้นมีพิธีต่าง ๆ กันดังนี้
วันที่ 1 นั้นแต่ละนฤปเวศม์เจ้าก็จะดูฤกษ์ยามงามดีว่าว่า จะเชิญเจ้ามาเวลาไหน แต่ก็จะไม่เกินเที่ยงวัน โดยใช้ ปวย 2 อันทำการเสี่ยงทายโดยการโยน 2 ครั้ง หาก 1 อันนั้นหงายส่วนอีก 1 อันคว่ำ บ่งชี้ว่า เจ้าทั้ง 9 ได้ไปลงมาแล้ว และการกินเจจะเริ่มขึ้น แต่บุคคลส่วนใหญ่มักเขมือบกันล่วงหน้าตากันมาแล้วด้วยล้างท้อง
ซึ่งที่ภูเก็ตในตอนกลางคืนจะมีพิธียกเสา โกเด้ง แล้วขึ้นที่หน้าศาลเจ้าเจ้า หรืออ๊ามนั้นเอง เพื่อใช้ครอบครองที่จะแขวนไฟทั้ง 9 ดวง และเชิญดวงผีของยกยอดฮ่องเต้ด้วย หรือ พระอิศวร และ กิวอ๋องไตเต หรือ ราชาผู้หมายถึงใหญ่ทั่วเก้ามากดตรานั้นเองค่ะ
วันที่ 2 เวลาช่วงเช้า จะมีการจุดธูปปริมาตรใหญ่ด้งบ และตั้งเครื่องเซ่นพร้อมกับเผาไม้หอม เพื่อบูชาเจ้านายประจำอ๊ามตรงนั้นเอง
และหลังกรรมพิธีกินเจ หรือชาวภูเก็ตพร้องเพรียกว่า การเสวยผัก” ผ่านไป 3 วัน จะคีบว่าตัวเองกอบด้วยความสะอาดมามากแล้ว หรือจะขนานนามว่า เช้ง และในท่อนค่ำมีกรรพิธีเชิญเจ้าเข้าทรงผมอีก 2 องค์ คือ เจ้าลำเต้า เจ้าผู้สำรวจคนเกิด และ เจ้าปักเต้า เจ้าผู้สำรวจคนตาย และให้ทำพิธี ปั้งกุ้น หรือเอ่ยว่าพิธีปลงพระ หรืองานจัดทหารสิ่งเจ้าเสด็จรักษาศาลเธอทั้ง 5 ทิศ นั้งเอง เพราะว่าป้องกันสิ่งทรามร้าย ด้วยกันภูตผีที่จะมามลายพิธี ความมันสนานเริ่มต้นขึ้นรี่นี้เอง จนถึงการเชิญหมู่กล้าเต็มไปเพราะด้วยร่างทรงผมของตัวละครแล้ว อาทิ เห้งเจีย บู๊สง เป็นต้น
วันที่ 4 จะเป็นวันที่คนตำบลใหญ่จะมาเคารพเจ้า วันนี้ศาลเจ้าต่าง ๆ จะเนืองแน่นไปด้วยผู้คนมากมาย
วันที่ 7 จักเริ่มพิธีศรัทธาดาว เพื่อตาขอความเป็นมิ่งขวัญมงคล รักษาโรคภัยไข้เจ็บป่วย เป็นอีกวันเอ็ดที่มีการปณามเจ้า แต่วันนี้สำคัญกว่าวันที่สี่ เรียกว่า “ไหว้มึงใหญ่” ในวันนี้จะมีงานซื้อเต่ากับ ปลาไหล และ ปักษี ฯลฯ มาไหว้ด้วย
วันที่ 8 และวันนี้จะมีการลอยล่องกระทงเหมือนกัน คล้ายการลอยข้อของคนไทย ทำเพื่อขอบคุณเจ้าแม่คงคาที่ให้น้ำใช้ ให้น้ำดื่ม และให้สิ่งไม่ดีลอยไปยินยอมน้ำ นอกจากนี้แล้วที่ภูเก็ตยังกอบด้วยการจัดขบวนแห่ชนิดมโหฬารเกิน เพื่อนำลดเลี้ยวเกี้ยวพาไปรับตุ๊จำหลักที่ตะพานหิน และสดการระถึงวันที่ควันธูปจากพารากังไสมาถึงจังหวัดภูเก็ตค่ะ
และในขบวนแห่จะมีการแสดงอิทธิฤทธิ์ของม้าทรง หรือ คนทรงเจ้า นั้นเอง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้ชาย จะเห็นภาพของการใช้ของมีเปรื่องต่าง ๆนาๆ มากมาย ทิ่มแทงตามต้นร่างกาย มีรวมหมดง้าว ลูกตุ้มเหล็กฟาดหน้าฟาดหลัง ไปมาริ เอาขวานจามหลัง หรือเอาเหล็กศิตทิ่มแทงทรวดทรงกาย ด้วย หรือแทงชิวหา จนกระทั่งกรีดลิ้นร่างเองออกมาค่ะ
เพราะที่ทรงทีมนั้นเรียกร้องว่ามันไม่มีอยู่ความเจ็บใจปวดใด ๆ ขณะเป็นร่างรูปทรง และม้าทรงจะเดินเต้นไปทั่วเมือง ชาวบ้านจะตั้งโต๊ะเครื่องเคราเซ่นไหว้ และเหตุด้วยให้เจ้าไปถูกใจและมีการติดประทัดตลอดแถวทางพร้อมด้วย ทั้งกุมจะปลอกคลุมด้วยควันธูปและพลุ
วันที่ 9 ในตอนเช้าจักมีพิธีทำทาน เหรอเรียกว่า ซิโกว ตรงนั้นเป็นงานให้ทานไม้ใกล้ฝั่งผีไม่มีประยูร และในตรงกลางคืนจะมีเดินขบวนมังกร กับ สิงโต และ ขบวนสรรพสิ่งเด็กสถานที่จัดเพื่อยังไม่ตายสีสัน
ซึ่งขณะเขตจังหวัดภูเก็ตจะมีพิธีน่านับถือ คือ เอื้อนว่า พิธี โก๊ยโห้ย หรือแบบแผนลุยไฟสะเดาะเคราะห์ ม้าทรง หรือเรียกว่า เจ้าจะเดินลอดกองไฟ ที่มีถ่านร้อนๆแดงเป็นระยะทางกว่า 2 ฟุต และก็ตามด้วยผู้ที่หยิบศีลกินเจที่มีเรื่องมั่นใจแล้วว่าตัวเองใสสะอาดแล้ว ก็เป็นได้ร่วมท่องไฟได้เพื่อเช่นกันค่ะ ในตอนกลางส่งกลับจะมีพิธีปีนบันไดมีดด้วย สูงประมาณ 12 เมตร และก็จบลงที่ยามดึกของคืนทิวากาลที่ 9 นั้นจะประกอบด้วยการแห่พระไปส่งทะเลที่ตั้งสะพานหิน และนำเสาโกเต้งลงด้วย ดับโคมไฟทั้ง 9 เป็นอันเสร็จพิธีกินเจที่ภูเก็ต
วันที่ 10 นั้นสดวันส่งเทพารักษ์กลับ
ที่มาของข่าว : http://horoscope.sanook.com/70029/
ล่าการอัพดวง ดูดวง เช็คเคราะห์ ได้ที่: http://horoscope.sanook.com/
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น